ในโลกการเมืองภายใต้รัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กลับมีชื่อของ สองรัฐมนตรีหญิง “ศุภจี สุธรรมพันธุ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ “ซาบีดา ไทยเศรษฐ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ลูกสาวคนสวยของ ชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่กำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโซเชียล
โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง
ไม่ใช่แค่เพราะตำแหน่งที่พวกเธอได้รับ แต่ยังมาจากเสน่ห์เฉพาะตัว บุคลิกที่โดดเด่น และแนวคิดการทำงานที่ทำให้ประชาชนรู้สึกเข้าถึงง่าย ความรู้ความสามารถที่โดดเด่นกว่าใคร จนกลายเป็น ขวัญใจชาวเน็ต แทบจะทันทีหลังเข้ามามีบทบาททางการเมือง
“ศุภจี สุธรรมพันธุ์”หญิงแกร่งจากดุสิตธานี สู่ รมว.พาณิชย์
เป็นที่รู้จักในนามนักธุรกิจมือทอง เกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2507 (ปัจจุบันอายุ 61 ปี) ที่จ.สมุทรปราการ ชีวิตส่วนตัว ศุภจีมีบุตร 2 คน ทั้งยังเป็นพี่สาวของธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการไมโครซอฟท์ประเทศไทย
การศึกษา
>เริ่มต้นเส้นทางการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
>เดินทางไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่ Northrop University มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในสาขาบริหารธุรกิจ โดยเน้นด้านการเงินและการบัญชีระหว่างประเทศ
หลังจากกลับมายังประเทศไทย เธอไม่หยุดยั้งการพัฒนาตนเอง โดยผ่านการอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงจากสถาบันชั้นนำมากมาย เช่น
>Director Certification Program รุ่น 89/2007
>Advanced Audit Committee Program รุ่น 23/2016 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD)
>หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง รุ่น 16/2556 จากสถาบันวิทยาการตลาดทุน
>หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บ.ย.ส.) รุ่น 19 วิทยาลัยการยุติธรรม
>หลักสูตรนักบริหารระดับสูง “ธรรมศาสตร์เพื่อสังคม” (นมธ.) รุ่นที่ 1
ประสบการณ์แกร่งในองค์กรระดับชาติและนานาชาติ
“ศุภจี” เป็นที่รู้จักในแวดวงธุรกิจจากการดำรงตำแหน่งผู้บริหารในหลายองค์กรสำคัญ อาทิ
> อดีตผู้จัดการทั่วไป IBM ASEAN ในกลุ่มธุรกิจบริการเทคโนโลยีระดับโลก ซึ่งเธอทำงานกับ IBM มายาวนานกว่า 20 ปี *เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับการแต่งตั้ง*
>ปี 2554 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านดาวเทียมของประเทศ และสามารถนำพาองค์กรฟื้นตัวจากภาวะขาดทุนไปสู่ความมั่นคงทางธุรกิจ
>ปี 2559 Group CEO ของ ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้นำในอุตสาหกรรมโรงแรมและการท่องเที่ยวของไทย เธอเป็นผู้ผลักดันแผน “Repositioning Dusit” เพื่อยกระดับแบรนด์ให้ทันสมัยและมีมาตรฐานสากลมากขึ้น
>ผู้ริเริ่มโครงการใหญ่ระดับหมื่นล้านบาทอย่าง Dusit Central Park ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ผสมผสานที่โดดเด่นของกรุงเทพฯ โดยให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวและความยั่งยืนควบคู่กับมูลค่าทางเศรษฐกิจ
ปัจจุบันเธอเป็นกรรมการในหลายบริษัท เช่น บริษัท ดุสิต เอสเตท จำกัด (2567-ปัจจุบัน), บริษัท บองชู / พอร์ต รอยัล / BAKEIP Limited / Baujour International (2565-ปัจจุบัน), บริษัท บองชูร์ เบเกอรี่ เอเชีย และบริษัท สวนลุม พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
นอกจากนี้ “ศุภจี” ยังเคยเป็นกรรมการอิสระของธนาคารกสิกรไทย, กรรมการใน SCG Packaging และได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน “50 Over 50 : Asia 2024” จาก Forbes Asia และ Power Business Woman 2023 ซึ่งแสดงถึงการเป็นผู้นำหญิงที่มีอิทธิพลในวงการธุรกิจของเอเชีย
……..
‘ดีดา ซาบีดา’ ลูกสาว ชาดา ไทยเศรษฐ์ ทายาทนักการเมืองตัวจริง
น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ หรือ ดีดา เป็นลูกสาวคนกลางของนายชาดา อดีต รมช.มหาดไทย พรรคภูมิใจไทย เกิดวันที่ 11 ตุลาคม 2527 (ปัจจุบันอายุ 40 ปี) ชีวิตส่วนตัว ซาบีดาสมรสกับอนันต์ ปาทาน นอกจากนั้นยังเป็นที่ฮือฮาแล้วถูกแซวในโลกออนไลน์ ว่าเป็นรัฐมนตรีที่สวยที่สุด
การศึกษา
>ปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
>ปริญญาโทนิติศาสตร์บัณฑิต กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ช่วยงานคุณพ่ออย่างใกล้ชิด จนได้รับตำแหน่ง รมว.กระทรวงวัฒนธรรม
>เคยเป็นหนึ่งในคณะทำงานประจำรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในสมัยที่ชาดาผู้เป็นบิดาดำรงตำแหน่ง และเป็นตัวแทนของบิดาในการทำงานและดูแลประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี เขต 1 ที่ชาดาได้รับเลือกตั้ง
>3 กันยายน พ.ศ. 2567 ชาดาได้ประกาศถอนตัวออกจากรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร เนื่องจากกังวลต่อคุณสมบัติของตน และให้ซาบีดาไปดำรงตำแหน่งเดิมของตน
*นับเป็นรัฐมนตรีสตรีมุสลิมคนแรกในกระทรวงมหาดไทย และเป็นบุคคลสกุลไทยเศรษฐ์คนที่สามที่ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ต่อจากชาดาและมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ผู้เป็นอา
>ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2568 เธอได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในรัฐบาลอนุทิน
คนสำคัญในมูลนิธิ
บุตรสาวของชาดาทั้ง 3 คนยังดำรงตำแหน่งในมูลนิธิอีก 2 แห่ง ได้แก่ มูลนิธิไทยเศรษฐ์ และ มูลนิธิอุทัยธานีเพื่อการพัฒนา ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือปัญหาต่าง ๆ ในจังหวัดอุทัยธานีเป็นหลัก โดยซาบีดาเป็นรองประธานกรรมการและเลขานุการทั้ง 2 มูลนิธิ
