20 ปีแห่งการเตรียมความพร้อม สู่การเป็นรัชทายาท เพื่อความหวังคนไทยทั้งแผ่นดิน

ความหวังแห่งแผ่นดิน 20 ปีของการเตรียม พร้อมสุดเข้มข้นสู่การเป็นผู้นำที่เก่ง รอบด้านสวัสดีครับยินดีต้อนรับเข้าสู่ ช่อง Infinity F ครับทุกท่านครับกาลเวลา ได้เดินทางไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วในขณะ ที่เราอาจจะหลงลืมหรือไม่ได้ติดตามข่าว สารอย่างใกล้ชิดแต่ในผืนแผ่นดินไทยนี้มี รัชทายาทพระองค์หนึ่งที่กำลังเจริญเติบโต อย่างเข้มข้นสู่การเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ที่สุดของชาตินี่คือเรื่องราวของสมเด็จ พระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฝาทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตะมางกูล สิริวิบูลราชกุมาร นับตั้งแต่การประสูติเมื่อ 29 เมษายนพ.ศ. 2548 จนถึงวันนี้ปีพุทธศักราช 256

พระองค์ทรงมีพระชนมายุ 20 พรรษาหลายท่าน อาจจะเคยเห็นพระองค์ท่านในข่าวมาบ้างแต่ อาจจะยังไม่ทราบถึงพระประวัติและพระ กรณียกิจอย่างละเอียดเพราะฉะนั้นในคลิป นี้ผมจะนำทุกท่านเจาะลึกถึงเบื้องหลังการ เตรียมพระองค์ที่เรียกได้ว่าเป็นการสู้ ชีวิตและฝึกฝนตนเองอย่างหาที่เปรียบมิได้ เพื่อให้สมกับฐานะรัชทายาทแห่ง ราชบัลลังก์ไทยและเราจะพาท่านไปค้นพบ เบื้องหลังชีวิตขององค์รัชทายาทผู้ต้อง ส่งฝึกฝนตนเองอย่างหนักทั้งทางโลกและทาง ธรรมใน 2 ทวีปตั้งแต่การศึกษาในประเทศไทย ไปจนถึงการประทับที่ต่างประเทศท่านจะได้ เห็นมิติที่ลึกซึ้งของเจ้าชายจิตอาสาที่

ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจด้วยความมุ่งมั่น ทรงใช้ชีวิตอย่างสมถะถึงขนาดที่ทรงเลือก บำเพ็ญวัดปฏิบัติในวัดป่าและทรงอุทิศพระ วรกายเพื่อสาธารณประโยชน์ด้วยพระองค์เอง ซึ่งเป็นฉากที่สะท้อนถึงการฝึกตนทางจิต วิญญาณและวินัยอันหาที่เปรียบมิได้พร้อม กันนี้เราจะพาไปเจาะลึกถึงพิธีกรรมและ ธรรมเนียมสำคัญของราชวงศ์ที่สงฆ์ได้รับ การสืบสาตั้งแต่พระราชพิธีสมโภชเดือนและ ขึ้นพระอู่อันเป็นพิธีรับขวัญตามโบราณ ราชประเพณีไปจนถึงการได้รับการสถาปนาเป็น เจ้าฟ้าในพระราชราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2562 และจะอธิบายอย่างชัดเจนว่าเหตุใดพิธี โกนจุกโสกซึ่งเป็นพิธีการก้าวพ้นวัยเยาว ในอดีตจึงถูกแทนที่ด้วยการรับผิดชอบผ่าน

พระกรณียกิจในยุคปัจจุบันหลังจากรับฟัง คลิปนี้จบลงทุกท่านจะไม่ได้รู้จักเพียง แค่พระนามแต่จะได้รับรู้ถึงพระปรีชา สามารถอันโดดเด่นและความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่ทรงพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแม้พระชนมายุ อย่างน้อยแต่ผลนานและพระจริวัตของพระองค์ ท่านนั้นดีเยี่ยมเป็นรัชทายาทผู้เปี่ยม ด้วยปัญญาและคุณธรรมซึ่งสามารถกล่าวได้ อย่างภาคภูมิว่าเป็นเจ้าชายสยามที่ไม่แพ้ ใครในโลกนี้และทุกท่านจะได้รับประโยชน์ อย่างยิ่งจากข้อคิดและแรงบันดาลใจในการ ใช้ชีวิตการทำความดีและการเตรียมความ พร้อมเพื่อเป็นผู้นำที่ดีในอนาคตครับก่อน จะไปรับชมและรับฟังกันช่วยกดไลก์วีดีโอ

นี้คนละ 1 ไลก์และกดติดตามช่อง Infinity F ไว้เพื่อจะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆที่ทาง ทีมงานของเราจัดเตรียมไว้ให้ถ้าพร้อมแล้ว เชิญรับชมและรับฟังกันได้เลยครับในเรื่อง เล่าทีปังกรรัศมีโชติแสงแห่งปัญญาผู้สืบ สาตอนที่ 1 ประถมประทีปส่องล่าเรื่องราว สำคัญในราชวงศ์จักรีนี้เกิดขึ้นเมื่อวัน ที่ 29 เมษายนพุทธศักราช 2548 ครับสถานที่ก็คือโรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานครนี่เองเป็นวันที่มีการ ประสูติของพระราชโอรสพระองค์น้อยในพระบาท สมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวตอนนั้นยัง ทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งประสูติแต่ท่านผู้หญิงศรีรัตน์สุวดี ครับพระองค์ประสูติในวันศุกร์เวลา 18:35

น. ทีมแพทย์ได้ถวายพระประสูติด้วยวิธีการผ่า ตัดอย่างปลอดภัยทุกอย่างครับองค์น้อยทรง มีพระพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงตั้งแต่ แรกประสูติเลยทีเดียวและแน่นอนครับว่าการ ประสูติครั้งนี้สร้างความปลื้มปีติให้กับ ประชาชนชาวไทยอย่างท่วมทนเพราะทรงเป็นพระ ราชนัดาในพระบาทสมเด็จพระบรมชนาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระ บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงครับหลังจากนั้น ไม่นานครับคือในวันที่ 15 มิถุนายนพ.ศ. 2548 พระบาทสมเด็จพระบรมชนาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพิตรก็ได้มีพระบรมราชโองการ

โปรดเกล้าพระราชทานพระนามและพระอิสริยยศ แรกประสูติครับนั่นก็คือพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าที่ปังกรรัศมีโชติพระนามนี้มี ความศักดิ์สิทธิ์และความหมายที่ลึกซึ้ง มากครับเปรียบเหมือนคำอวยพรที่สำคัญที่ สุดเลยทีเดียวหมายถึงผู้ทำประทีปคือปัญญา ให้สว่างกระจ่างแจ้งผู้ทำเกาะคือที่พึ่ง ให้รุ่งเรืองโชคซึ่งเป็นการกำหนดเส้นทาง ว่าพระองค์จะทรงใช้สติปัญญาและจะเป็นหลัก ชัยที่สำคัญให้กับประเทศชาติต่อไปครับพอ ทรงมีพระชนมายุครบ 1 เดือนทางราชสำนักก็ ได้มีการจัดพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้น พระอู่ตามโบราณราชประเพณีครับจัดขึ้นที่ พระที่นั่งอนันตสมาคมเมื่อวันที่ 17

มิถุนายนพ.ศ. 2548 พิธีสวยงามนี้ถือเป็นการสืบสารธรรมเนียม ที่สำคัญของราชวงศ์ที่ทำกันมาอย่างต่อ เนื่องและยังเป็นการรับขวัญองค์รัชทายาท ผู้เป็นความหวังในอนาคตของชาติด้วยครับ ยิ่งไปกว่านั้นครับในวาระที่ทรงเจริญพระ ชรรษาครบ 1 ปีในปีพุทธศักราช 2549 กรมธนารักษ์ก็ได้จัดทำเหรียญกสาบที่ระลึก ชนิดราคา 50 บาทขึ้นมาเพื่อเป็นการเฉลิม พระเกียรติและบันทึกเหตุการณ์สำคัญแห่ง การประสูติของพระองค์ท่านไว้ใน ประวัติศาสตร์ชาติไทยอย่างสมบูรณ์เลยที เดียวครับนี่แหละครับคือการเริ่มต้นอัน ยิ่งใหญ่ของรัชทายาทผู้เปี่ยมด้วยแสงแห่ง

ปัญญาผู้ที่กำลังเตรียมพร้อมเพื่อรับผิด ชอบในฐานะพระรัชทายาทโดยสันนิษฐานลำดับ ที่ 1 ตามกฎมณฑเทียนบาลการเดินทางแห่งการ ฝึกฝนตนเองในพระชนีของพระองค์ท่านได้ เริ่มต้นขึ้นแล้วครับตอนที่ 2 ชีวิต 2 ทวีปปีกแรกแห่งการเรียนรู้หลังจากที่พระ ราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ผ่านพ้นไป แล้วองค์รัชทายาทได้ก้าวเข้าสู่การเรียน รู้ครั้งสำคัญในชีวิตเลยครับการเตรียมพระ องค์นี้ถูกออกแบบมาอย่างดีเพื่อสร้างราก ฐานที่มั่นคงทั้งด้านสติปัญญาและความเข้า ใจในโลกภายนอกครับพระองค์ท่านเริ่มต้นการ ศึกษาในระดับชั้นอนุบาลที่โรงเรียนจิตลดา ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาอันทรงเกียรติที่

ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานเลยครับแต่หลังจาก นั้นเส้นทางการเรียนรู้ก็ได้นำพระองค์ไป สู่ความท้าทายครั้งใหม่ในอีกซีกโลกหนึ่ง ครับการตัดสินใจที่จะให้ทรงศึกษาต่อใน ต่างประเทศนั้นถือเป็นส่วนสำคัญในการ เตรียมพระองค์ให้มีโลกทัศที่กว้างไกลมี ความเข้มแข็งและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมี วินัยตามมาตรฐานสากลครับพระองค์ได้เสด็จ ไปทรงศึกษาต่อที่โรงเรียนนานาชาติBวaria Bavariian International School หรือ BIS ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองไฮusenรัฐ บาวาเรียทางตอนเหนือของนครมิวนิสต์ประเทศ เยอรมนีครับการใช้ชีวิตในต่างแดนครั้งนี้ ถือเป็นบททดสอบที่สำคัญมากสำหรับรัชทายาท

ผู้เยาครับการเรียนในโรงเรียนนานาชาติแบบ นี้ช่วยให้พระองค์ท่านได้สัมผัสกับสภาพ แวดล้อมที่สอนให้รู้จักความเป็นอิสระการ รับผิดชอบต่อตนเองและการอยู่ร่วมกับผู้คน จากหลากหลายวัฒนธรรมได้อย่างเป็นธรรมชาติ ครับส่งต้องปรับตัวให้เข้ากับระบบการ เรียนการสอนและสภาพภูมิอากาศที่แตกต่าง จากเมืองไทยอย่างสิ้นเชิงเลยครับนี่คือ การฝึกฝนความอดทนและความสามารถในการยืน หยัดด้วยพระองค์เองภายใต้การดูแลอย่าง ใกล้ชิดของพระบรมราชนกครับแม้จะประทับ อยู่ห่างไกลจากแผ่นดินแม่แต่ความผูกพัน และคำสอนจากพระบิดานั้นไม่เคยห่างหายไป ไหนเลยครับการเตรียมความพร้อมทั้งร่างกาย

และจิตใจยังคงดำเนินไปอย่างเข้มนวดช่วง ปิดเทอมเล็กที่ประเทศเยอรมนีพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวในขณะนั้นทรงดำรงพระ อิสริยยศสมเด็จพระบรมโอราสาธิราช สยามกุฎราชกุมาร ได้ทรงสอนพระองค์ท่านว่ายน้ำและพายเรือ ด้วยพระองค์เองครับนี่เป็นภาพที่แสดงให้ เห็นถึงความรักและความห่วงใยที่ลึกซึ้ง มาก พร้อมการปลูกฝังทักษะชีวิตที่สำคัญให้แก่ พระราชโอรสอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเองครับ ช่วงชีวิตในต่างแดนนี้จึงไม่ใช่แค่การ ศึกษาหาความรู้ตามตำราเท่านั้นครับแต่ เป็นการสร้างปีกแรกแห่งความแข็งแกร่งและ อิสระให้แก่รัชทายาทผู้แบกรับพระนามอัน ยิ่งใหญ่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรับใช้

ประเทศชาติในอนาคตครับตอนที่ 3 จุดเริ่ม ต้นเจ้าชายแห่งวินัย การเริ่มต้นชีวิตในโรงเรียนนานาชาติ บาวาเรียที่ประเทศเยอรมนีนั้นไม่ใช่แค่ การย้ายไปเรียนที่ใหม่เท่านั้นครับแต่มัน คือการเข้าสู่บทเรียนที่สำคัญที่สุดบท หนึ่งในพระชนีเลยนั่นก็คือเรื่องของวินัย ความรับผิดชอบต่อตนเองซึ่งเป็นคุณสมบัติ พื้นฐานที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง ตั้งใจปลูกฝังให้แก่รัชทายาทอย่างต่อ เนื่องและเป็นรูปธรรมที่สุดครับแม้ว่าพระ องค์ท่านจะมีพระอิสริยยศที่สูงส่งแต่ ชีวิตในวัยเยาวกลับเรียบง่ายและเต็มไป ด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมที่สะท้อนถึงความ

มุ่งมั่นในการทำความดีอย่างสม่ำเสมอครับ หลักฐานที่ชัดเจนที่สุดของการมีวินัยที่ โดดเด่นนี้เราสามารถย้อนกลับไปเห็นได้ ตั้งแต่ตอนที่ยังทรงศึกษาอยู่ที่โรงเรียน จิตลดาเลยครับในวันที่ 2 ตุลาคมพ.ศ. 2551 พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกร รัศมีโชติได้ทรงรับเกียรติบัติพร้อม รางวัลงานประหยัดน้ำไฟที่โรงเรียนจัดขึ้น เป็นประจำครับเกียรติบัตรนี้ไม่ได้มาจาก การทำแค่ครั้งเดียวเท่านั้นนะครับแต่เป็น เพราะพระองค์ท่านทรงปฏิบัติอยู่เป็นประจำ และเป็นแบบอย่างที่ดีต่อเพื่อนๆในโรง เรียนมาโดยตลอดแสดงให้เห็นว่าการรู้จัก คุณค่าของทรัพยากรและการมีความรับผิดชอบ

ต่อส่วนรวมนั้นถูกปลูกฝังลงในพระหฤทัย ตั้งแต่ทรงพระเยเยาก่อนที่จะเสด็จไปศึกษา ต่อในต่างประเทศด้วยซ้ำไปครับพระจริยวอัน งดงามนี้ก็ได้ติดตัวพระองค์ท่านไปถึงต่าง แดนด้วยครับการใช้ชีวิตในเยอรมนีภายใต้ ระเบียบของโรงเรียนนานาชาติที่เน้นการ พึ่งพาตนเองยิ่งทำให้พระองค์ทรงฝึกฝนความ มีวินัยอย่างเข้มแข็งขึ้นไปอีกครับไม่ว่า จะเป็นเรื่องของการบริหารจัดการเวลาการ เรียนรู้ที่จะดูแลเครื่องแต่งกายหรือการ จัดเตรียมอุปกรณ์การเรียนด้วยพระองค์เอง สิ่งเหล่านี้แหละครับคือการสู้ชีวิตในรูป แบบของรัชทายาทที่ต้องทรงเตรียมพร้อม เพื่อรับผิดชอบและเป็นผู้นำที่ดีในอนาคต

ครับดังนั้นตอนที่ 3 นี้จึงเป็นเรื่องราว ที่เน้นย้ำให้เราเห็นว่าก่อนที่แสงแห่ง ปัญญาจะฉายฌานออกไปเป็นที่พึ่งพิงให้แก่ ผู้อื่นได้นั้นแสงนั้นจะต้องถูกจุดประกาย ด้วยวินัยและความรับผิดชอบต่อตนเองเสีย ก่อนซึ่งถือเป็นรากฐานอันมั่นคงของพระ จริวัตอันงดงามที่ทุกคนได้เห็นในปัจจุบัน ครับตอนที่ 4 ร่มเงาธรรมการสู้ชีวิตทาง จิตวิญญาณในช่วงเวลาที่รัชทายาทผู้เยา ประทับศึกษาอยู่ที่ประเทศเยอรมนีนั้นพระ องค์ท่านไม่ได้จำกัดการเรียนรู้ไว้แค่ใน ตำราหรือในห้องเรียนเท่านั้นครับแต่ยัง ทรงแสวงหาความรู้และความสงบทางจิตใจผ่าน การปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดด้วยนี่ถือ

เป็นส่วนสำคัญในการเตรียมพระองค์เพื่อ เป็นหลักชัยทางจิตวิญญาณให้แก่พระสกนิกร ชาวไทยในอนาคตครับพระองค์ท่านทรงแสดงความ เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างยิ่งยวดโดย ทรงเข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาที่วัด ป่ามุตโตทยซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนี เป็นประจำครับนี่เป็นอีกมิติหนึ่งของการ สู้ชีวิตทางจิตวิญญาณที่เป็นเรื่องส่วน ตัวและหาชมได้ยากยิ่งเลยครับพระองค์ท่าน ทรงมิได้ถือพระองค์เลยแม้แต่น้อยทรง ปฏิบัติกิจเฉกเช่นพุทธศาสนิกชนทั่วไปคือ ทรงตื่นบรรทมแต่เช้าตรู่สวมฉลองพระองค์ เสื้อโปโลพระราชทานสีดำพร้อมหมวกและผ้า พันธุ์คอจิตอาสาเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมทำ

ความดีครับการทรงงานจิตอาสาที่วัดป่า มุโตทยนั้นแสดงถึงความถ่อมตุนและความตั้ง ใจจริงอย่างชัดเจนเลยครับทรงโปรดที่จะ สนทนาธรรมกับเจ้าอาวาสเพื่อซึมซับคำสอน ของพระพุทธองค์ทรงลงมือทำความสะอาดลานวัด เช็ดฐานพระพุทธรูปภายในวัดและที่น่า ประทับใจสุดๆคือทรงล้างจานด้วยพระองค์เอง ครับการปฏิบัติพระจริวัตที่เรียบหม่าย เหล่านี้เป็นการปลูกฝังการทำความดีโดยไม่ หวังสิ่งตอบแทนและเป็นการฝึกจิตให้มีความ อดทนมีเมตตาและอยู่กับความจริงที่เรียบ ง่ายครับในช่วงเวลานั้นเองที่พระองค์ท่าน ได้มีพระดำรัสที่แสดงถึงความผูกพันกับ แผ่นดินแม่และแรงบันดาลใจในการทำความดี

ว่าถ้ากลับเมืองไทยจะไปทำที่เมืองไทยพระ ดำรัสนี้เปรียบเหมือนคำมั่นสัญญาที่ผูก พันพระองค์ท่านกับการทำความดีเพื่อ สาธารณประโยชน์และเป็นหลักฐานยืนยันว่า ความเป็นเจ้าชายจิตอาสาได้อย่างรากลึกใน พระหฤทัยตั้งแต่ยังทรงพะเยาหน้าต่างแดน เลยครับตอนที่ 5 เส้นทางนักบินความฝันและ เทคโนโลยี นอกเหนือจากการฝึกฝนตัวเองในเรื่องของ วินัยและธรรมะแล้วครับการเตรียมพระองค์ใน ฐานะรัชทายาทที่จะเป็นผู้นำประเทศในโลก ยุคใหม่ก็ต้องมาพร้อมกับความรอบรู้ด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้วยครับนี่เป็น ทักษะที่สำคัญมากๆต่อความก้าวหน้าของ ประเทศชาติในอนาคตครับสมเด็จพระเจ้าลูกยา เธอเจ้าฝาทีปังกรรัศมีโชติทรงแสดงความสน

พระทัยในเรื่องการบินและเทคโนโลยีมาตั้ง แต่ยังทรงพระเยาเลยครับความสนใจนี้ไม่ใช่ งานอดิเรกธรรมดานะครับแต่มันสอดคล้องกับ พระราชปนิพพานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวผู้ทรงเป็นนักบินที่เชี่ยวชาญและยัง เป็นการบ่งบอกถึงการสืบสานพระราชภารกิจ ด้านการทหารอากาศด้วยครับหลักฐานที่แสดง ถึงพระอัจฉริยภาพและความสนพระทัยในด้าน นี้อย่างชัดเจนคือในวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 ขณะที่ยังทรงพระเยเยาพระองค์ได้เสด็จไป ยังสนามกีฬากลางพื้นที่ควบคุมในพระองค์ 904 เขตดุสิตกรุงเทพมหานครเพื่อประทาน ถ้วยรางวัลพระราชทานและถ้วยรางวัลประธาน

ให้แก่ทีมที่ชนะเลิศการแข่งขันเครื่องบิน จำลองและวิทยุบังคับประเภทต่างๆในรายการ หนูน้อยเจ้าเวหาครับการเสด็จไปในพระ กรณียกิจครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเลย นะครับเพราะพระองค์ท่านทรงทรงใช้เวลาติด ตามการแข่งขันอย่างใกล้ชิดมากๆส่งซักถาม รายละเอียดเกี่ยวกับกลไกการทำงานของ เครื่องบินจำลองอย่างกระตือรือร้นและแสดง ความเข้าใจในหลักการทางอากาศพลศาสตร์และ เทคโนโลยีการควบคุมระยะไกลอีกด้วยครับการ กระทำนี้ไม่เพียงแต่เป็นขวัญและกำลังใจ แก่นักประดิษฐ์รุ่นเยาวที่สนใจ วิทยาศาสตร์เท่านั้นแต่ยังเป็นขวัญและ กำลังใจถึงพระวิสัยทัศน์ที่ให้ความสำคัญ

กับการพัฒนาทักษะ Time เทคนิคของเยาวชน ไทยซึ่งจะเติบโตโตไปเป็นกำลังสำคัญในการ พัฒนาประเทศต่อไปครับดังนั้นการเตรียม ความพร้อมในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่ช่วย เสริมสร้างให้แสงแห่งปัญญาของพระองค์ท่าน มีความครบถ้วนรอบด้านเพื่อให้ทรงเป็น รัชทายาทที่พร้อมนำพาประเทศไปสู่ความ เจริญรุ่งเรืองในทุกมิติครับตอนที่ 6 อาภรณสีดำทำสัญญาจากต่างแดนหลังจากที่ทรง สั่งสมประสบการณ์การใช้ชีวิตอย่างมีวินัย และเปี่ยมด้วยคุณธรรมในต่างประเทศแล้วพอ เสด็จกลับสู่ประเทศไทยองค์รัชทายาทก็ได้ เริ่มศาลต่อพระดำรัสที่เคยให้ไว้เมื่อ

ครั้งทรงปฏิบัติธรรมที่วัดป่ามุโตทย เยอรมนีครับนั่นคือการเข้าร่วมภารกิจจิต อาสาเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างจริงจังเลย ครับช่วงเวลาสำคัญที่แสดงถึงความมุ่งมั่น นี้เกิดขึ้นในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระ บรมศพพระบาทสมเด็จพระบรมชนาธิเบศ มหาภูมิพลอดุล มหาราชบรมนาถบพิตในปีพุทธศักราช 2560 ครับซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนไทยทุกคนต่าง ร่วมกันแสดงความอาลัยและทำความดีถวายเป็น พระราชกุศลครับสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้า ฟ้าทีปังกรรัศมีโชติได้ทรงเข้าร่วมใน กิจกรรมจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจอย่าง ขมักเขเม้นครับโดยทรงฉลองพระองค์ด้วย เสื้อโปโลพระราชทานสีดำที่เป็นสัญลักษณ์ ของโครงการจิตจิตอาสาเลยครับทรงลงมือ

ปฏิบัติภารกิจหลายอย่างที่ไม่ถือพระองค์ เลยครับไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดภายใน สุสานหลวงและวัดราชบพิตสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหารด้วยความตั้งใจจริงครับนอกจาก นี้ยังทรงปฏิบัติพระกรณียกิจในการดูแล ประชาชนที่มาร่วมในพระราชพิธีณบริเวณศาล หลักเมืองด้วยครับโดยทรงประทานน้ำดื่ม อาหารและพิมพ์เสน้ให้แก่พระสกนิกรที่มา เฝ้าในพระราชพิธีด้วยพระพักที่เปี่ยมด้วย ความเมตตาและห่วงใยครับการปฏิบัติพระ กรณียกิจครั้งนี้เป็นมากกว่าการเข้าร่วม กิจกรรมธรรมดาครับแต่มันเป็นการยืนยันว่า คำสัญญาจากต่างแดนที่ว่าจะทำความดีเพื่อ แผ่นดินแม่นั้นได้ถูกเติมเต็มแล้วครับพระ

องค์ท่านได้แสดงให้เห็นถึงการสืบสานพระ ราชปณิธานของพระราชบิดาในการเป็นเจ้าชาย จิตอาสาของปวงชนชาวไทยผู้ซึ่งไม่ลังเลที่ จะสละแรงกายและแรงใจเพื่อประโยชน์ส่วนรวม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆเลยครับซึ่งสิ่ง นี้แหละครับคือแก่นแท้ของคุณธรรมที่ทรง ปลูกฝังมาตลอดพระชนชีพครับตอนที่ 7 วิถี ทหารพลังและความรับผิดชอบการเตรียมพระ องค์ในฐานะรัชทายาทนั้นย่อมไม่อาจละเลย ภารกิจสำคัญด้านความมั่นคงและกองทัพซึ่ง เป็นเสาหลักในการปกป้องประเทศชาติสมเด็จ พระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงได้รับการปลูกฝังความเป็นทหารและวินัย อันเคร่งครัดมาตั้งแต่ทรงพระเยาโดยทรง

เข้ารับการฝึกทางทหารเบื้องต้นณโรงเรียน นายร้อยพระจุลจอมเกล้าจปร.ซึ่งเป็นสถาบัน หลักในการผลิตผู้นำทางทหารของไทยความสน พระทัยและพระวิริยอุตสาหะด้านการทหารของ พระองค์ท่านปรากฏเด่นชัดเมื่อทรงเสด็จไป ทัศนศึกษาและปฏิบัติพระกรณียกิจด้านการ ทหารอย่างต่อเนื่องณศูนย์การทหารราบค่าย ธนรัตน์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในช่วง เดือนสิงหาคมพุทธศักราช 2562 การเสด็จในครั้งนั้นเป็นการเรียนรู้เชิง ปฏิบัติที่เข้มข้นพระองค์ทรงทรงนำพระสหาย ร่วมทัศนศึกษาและทอดพระเนตรการสาธิตการ ฝึกของทหารราบอย่างใกล้ชิดทรงติดตามการ แสดงทางทหารทั้งการต่อสู้ด้วยมือเปล่าและ

การใช้อาวุธประจำกายซึ่งแสดงถึงการเตรียม พร้อมที่จะทรงเป็นจอมทัพในอนาคตนอกจากนี้ ยังทรงแสดงความสนพระทัยในเทคโนโลยีทางการ ทหารสมัยใหม่โดยส่งทอดพระเนตรการสาธิตการ ฝึกยิงอาวุธทหารราบด้วยเครื่องช่วยฝึก เทคโนโลยีสูงที่จำลองการยิงอาวุธต่าง อย่างสมจริงเพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกเกิด ทักษะความชำนาญโดยไม่ต้องใช้กระสุนจริง อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งไปกว่านั้นยังมี ฉากที่แสดงให้เห็นถึงความกระตือรือร้นใน การเรียนรู้เมื่อทรงทดลองทรงปืนบีบกัน ทั้งแบบปืนพกและปืนเล็กสั้นเพื่อฝึกความ แม่นยำด้วยพระองค์เองการฝึกฝนตนเองในวิถี ทหารนี้เป็นการตอกย้ำถึงการเตรียมพระองค์

ที่รอบด้านขององค์รัชทายาทไม่ใช่เพียงแค่ ด้านปัญญาและธรรมะแต่ยังรวมถึงพลังอำนาจ ความเด็ดขาดและวินัยที่จำเป็นต่อการเป็น ผู้นำสูงสุดของประเทศในยามคับขันซึ่งเป็น การเสริมสร้างให้พระองค์ท่านทรงเป็นที่ พึ่งพิงของประเทศชาติได้อย่างแท้จริงตอน ที่ 8 สถาปนาภารกิจแห่งการก้าวผ่านช่วง เวลาที่สำคัญที่สุดในพระชนีพที่บอกให้รู้ ว่าพระองค์ได้ก้าวผ่านจากพระเจ้าหลานเธอ สู่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอและทรงรับผิดชอบ ในฐานะรัชทายาทอย่างเป็นทางการก็ได้มาถึง ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัวนั่นก็คือพระราชพิธี บรมราชาภิเษก

พุทธศักราช 2562 ครับในวันที่ 5 พฤษภาคมพ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นวันสำคัญยิ่งในประวัติศาสตร์ชาติ ไทยพระบาทสมเด็จพระวชีรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อนให้สถาปนาพระเจ้า หลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติขึ้น เป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าทีปังกร รัศมีโชติมหาวชิโรตมางกูล สิริวิบูลราชกุมาร ครับการสถาปนาในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การ เปลี่ยนพระอิสริยยศเท่านั้นนะครับแต่มัน คือการประกาศต่อพระสกนิกรและทั่วโลกว่า รัชทายาทพระองค์นี้ได้ทรงเข้าสู่สถานะและ บทบาทแห่งความรับผิดชอบอย่างสมบูรณ์แล้ว เป็นการตอกย้ำถึงพระราชสถานะในฐานะพระ

ราชทายาทโดยสันนิษฐานลำดับที่ 1 ตามกฎ มณเฑียนบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ ครับเมื่อพูดถึงการก้าวพ้นจากวัยเยาเข้า สู่วัยผู้ใหญ่ตามธรรมเนียมราชประเพณีใน อดีตเรามักจะนึกถึงพระราชพิธีโสกร์หรือ พิธีโกนจุกเป็นเครื่องหมายสำคัญใช่ไหม ครับอย่างไรก็ตามซีรีส์เรื่องเล่านี้ขอ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าพระราชพิธีโสกันได้ ถูกยกเลิกไปแล้วในราชสำนักไทยตั้งแต่ช่วง รัตนโกสินทร์ตอนปลายเนื่องจากการปรับ เปลี่ยนทางวัฒนธรรมและสังคมที่มุ่งเน้น ความทันสมัยครับดังนั้นการก้าวผ่านสู่ ความเป็นผู้ใหญ่และพร้อมรับผิดชอบในฐานะ รัชทายาทในยุคปัจจุบันจึงไม่ได้ถูกวัด

ด้วยพิธีกรรมโบราณครับแต่ถูกวัดด้วยพระ กรณียกิจที่ทรงปฏิบัติและพระวิริยอุตสาหะ ในการฝึกฝนตนเองที่ได้ทรงกระทำมาอย่างต่อ เนื่องครับพระองค์ท่านทรงได้รับการสถาปนา ในพิธีอันศักดิ์สิทธิ์พร้อมๆกับการได้รับ มอบหมายภารกิจที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นทาง การครับการที่ทรงดำรงพระอิสริยศเจ้าฟ้า นับแต่นั้นมาจึงเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่ม ต้นบทบาทใหม่แห่งการเป็นเสาหลักและแสงนำ ทางให้แก่ประเทศชาติอย่างแท้จริงครับซึ่ง สอดคล้องกับความหมายของพระนามที่หมายถึง ผู้ทำเกาะคือที่พึ่งให้รุ่งเรืองโชตช่วง อย่างลงตัวเลยครับตอนที่ 9 เมตตาชนเจ้า ชายผู้ปรุงอาหารหลังจากที่ทรงได้รับการ

สถาปนาเป็นเจ้าฟ้าและรับพระราชภารกิจ อย่างเป็นทางการแล้วพระกรณียกิจของสมเด็จ พระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ ก็ยิ่งทวีความสำคัญและมีหลายมิติมากขึ้น ไปอีกครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเข้า ถึงและบำรุงขวัญกำลังใจให้กับประชาชนและ ผู้ที่ทำงานเพื่อส่วนรวมครับพระองค์ท่าน ทรงเป็นที่รู้จักในฐานะเจ้าชายจิตอาสา ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่การลงพื้นที่ทำ ความสะอาดเท่านั้นนะครับแต่ยังรวมถึงการ แสดงออกถึงความเมตตาและอุปถัมภ์ต่อผู้ที่ ได้โอกาสและเยาวชนที่ต้องการความช่วย เหลือด้วยครับความห่วงใยนี้ปรากฏให้เห็น จากการที่พระองค์ท่านทรงเสด็จไปเยี่ยมและ

พระราชทานสิ่งของแก่เด็กและเยาวชนที่สถาน สงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถีอยู่เสมอ ครับสถานสงเคราะห์แห่งนี้ยังมีอาคารที่ อัญเชิญพระนามของพระองค์มาเป็นชื่ออาคาร เพื่อเป็นศูนย์กลางในการดูแลเด็กประถมวัย ด้วยครับการเสด็จไปแต่ละครั้งทรงมีพระ ปฏิสันฐานอย่างอบอุ่นและทรงมีพระราชทาน พระดำรัสเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เด็กๆ ซึ่งเป็นพลังพลังทางใจที่ยิ่งใหญ่มากๆ ครับนอกจากพระกรณียกิจด้านสังคมสงเคราะห์ แล้วยังมีฉากที่สร้างความประทับใจและแสดง ถึงความไม่ถือพระองค์อย่างยิ่งเลยครับ นั่นคือในกิจกรรมจิตอาสาในโครงการเราทำ ความดีด้วยหัวใจณบริเวณท่าเรือนครสวรรค์

คลองผดุงกรุงเกษมในวันที่ 4 มกราคมพ.ศ. 2562 พระองค์ได้เสด็จไปทอดพระเนตรโรงครัวพระ ราชทานณราชนาวีสโมสรครับในโอกาสนั้นพระ องค์ไม่ได้ธงเพียงแค่ประทานสิ่งของเท่า นั้นนะครับแต่ทรงลงมือประกอบอาหารผัดไทย กุ้งสดด้วยพระองค์เองเพื่อประทานแก่ตัว แทนจิตอาสาที่ร่วมกิจกรรมในพื้นที่ครับ นี่เป็นภาพที่หาชมได้ยากยิ่งและแสดงให้ เห็นถึงความตั้งใจจริงที่จะดูแลและบำรุง ขวัญผู้ปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดและเสมอภาค ครับการแสดงออกถึงเสน่ห์ปลายจวักและความ กระตือรือร้นในร่วมแรงร่วมใจนี้เป็นการ ตอกย้ำถึงพระจริวัติอันงดงามคือการช่วย เหลือผู้อื่นโดยไม่ถือพระองค์และไม่หวัง ผลตอบแทนใดๆเลยครับซึ่งทำให้พระองค์ท่าน

เป็นที่รักและเคารพของปวงชนชาวไทยอย่าง แท้จริงครับตอนที่ 10 แสงนำทางการสืบสาร สู่แผ่นดินการเดินทางของการเตรียมพระองค์ ในฐานะรัชทายาทได้มาถึงบทสรุปที่สำคัญมาก ๆครับซึ่งเป็นการยืนยันความพร้อมอย่าง เต็มเปี่ยมในการเป็นที่พึ่งและแสงนำทาง ให้แก่ประเทศชาติและประชาชนทุกคนครับ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฝาทีปังกร รัศมีโชติทรงแสดงให้เห็นถึงการสืบสาพระ ราชปณิธานของพระบรมชนกนาถอย่างต่อเนื่อง และเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง ของศาสนาและการเป็นผู้นำทางจิตวิวิญญาณ ครับทุกครั้งที่เสด็จกลับประเทศไทยพระ องค์ท่านจะทรงถือโอกาสไปทรงบำเพ็ญพระกุศล

และทรงสนทนาธรรมกับพระเถระชั้นผู้ใหญ่ อยู่เสมอครับไม่ว่าจะเป็นการถวายสักการะ เจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ณวัดราชบพิตรสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ครับการนี้ทรงบำเพ็ญพระกุศลถวายจตุปัจจัย ไทยธรรมและทรงสนทนาธรรมเพื่อรับพระโอวาท ซึ่งแสดงถึงความฝักใฝ่ในธรรมและปัญญา อย่างลึกซึ้งมากครับนอกจากนี้ยังทรงมี วาระเสด็จไปยังต่างจังหวัดเป็นการสวนพระ องค์ด้วยครับเช่นการเสด็จไปสถานพำนักสงฆ์ บ้านไร่ทอศรีอำเภอปากช่องจังหวัด นครราชสีมา เพื่อทรงบำเพ็ญพระกุศลและทรงสนทนาธรรมกับ พระธรรมพัชชรยาณมุนี ชยสาโร

ซึ่งมีการเสด็จไปปฏิบัติพระกรณียกิจนี้ อย่างสม่ำเสมอครับนี่เป็นการตอกย้ำถึงการ เตรียมพระองค์ทางด้านธรรมะเพื่อเป็นหลัก ชัยทางจิตใจของปวงชนครับบทบาทเห็นความรับ ผิดชอบสูงสุดในด้านศาสนาปรากฏชัดเมื่อพระ องค์ทรงได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ให้เสด็จแทนพระองค์ไปในการพระราชพิธี สำคัญทางศาสนาครับอาธิการทรงบำเพ็ญพระ ราชกุศลถวายผ้าพระกฐินณวัดต่างทั่วประเทศ เช่นวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลกเมื่อปีพ.ศ. 2565 และวัดพระปฐมเจดีย์จังหวัดนครปฐมพ.ศ. 2567 รวมถึงวัดสุวรรณดารามและวัดนิเวศ ธรรมประวัติจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ศ. 256 ครับการเสด็จแทนพระองค์เหล่านี้ไม่เพียง

แต่เป็นการทำรงไว้ซึ่งพระราชประเพณีเท่า นั้นแต่ยังเป็นการแสดงถึงการส่งต่อภารกิจ อันศักดิ์สิทธิ์จากพระมหากษัตริย์สู่ รัชทายาทอย่างมั่นคงครับตลอดพระชนชีพที่ ผ่านมาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้า ทีปังกรรัศมีโชติได้ทรงพิสูจน์แล้วว่าทรง เป็นรัชทายาทที่ได้รับการเตรียมความพร้อม อย่างรอบด้านครับทั้งด้านวินัยปัญญาการ ทหารเทคโนโลยีจิตอาสาและศาสนาการทรงเป็น องค์ประธานอุปถัมภ์ของสโมสรผู้รัก สวนศาสตร์แห่งประเทศไทยและการมีสถาบันการ ศึกษาการแพทย์และการสาธารณสุขหลายแห่ง อัญเชิญพระนามไปใช้ยิ่งเป็นการยืนยันถึง การเป็นที่พึ่งให้แก่สังคมได้อย่างเป็น

รูปธรรมในวันนี้จึงสามารถกล่าวได้อย่าง เต็มภาคภูมิเลยครับว่าสมเด็จพระเจ้าลูกยา เธอเจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตมังกูร สิริวิบุญญราชกุมารทรงเป็นแสงแห่งปัญญา ผู้สืบสาที่พร้อมจะนำพาคุณธรรมความรู้และ ความเมตตาสืบสากระชาชปณิธานและเป็นมิ่ง ขวัญให้แก่ประเทศชาติและประชาชนสื่อไป ครับขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงที่ได้ร่วม เดินทางกับซีรีส์เรื่องเล่าชุดทีปังกร รัศมีโชติแสงแห่งปัญญาผู้สืบสาจนมาถึงบท สรุปในวันนี้ครับผมเองรู้สึกเป็นเกียรติ และภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสนำ เสนอเรื่องราวเบื้องหลังการเตรียมพระองค์ อันเข้มข้นและพระจริวัตรอันงดงามขององค์ รัชทายาทให้ทุกท่านรับฟังกันผมเองมิได้

เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์หรือ นักวิชาการมืออาชีพหากแต่เป็นเพียงผู้ที่ ชื่นชมและศรัทธาในการเล่าเรื่องราวที่ทรง คุณค่าเท่านั้นหากการนำเสนอเรื่องราวมี ข้อผิดพลาดหรือสำเนียงการเล่าของผมติดขัด ไปบ้างผมต้องขอกราบอภัยทุกท่านมาณที่นี้ และขอสัญญาว่าจะมุ่งมั่นปรับปรุงพัฒนาการ เล่าเรื่องให้ดียิ่งขึ้นไปในทุกๆตอนครับ ขอเพียงทุกท่านส่งกำลังใจให้ผมและทีมงาน ด้วยนะครับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และ พระประวัติถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน สิ่งที่เรานำเสนออาจแตกต่างไปจากสิ่งที่ ทุกท่านเคยได้รับทราบมาบ้างจึงขอให้ทุก ท่านโปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูล

เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่สมบูรณ์ที่สุด การเปิดรับมุมมอมที่แตกต่างนั้นจะนำมา ซึ่งปัญญาที่กว้างไกลครับหากทุกท่านชื่น ชอบเรื่องราวดีๆที่เรานำเสนอและต้องการ ติดตามเรื่องราวที่ทรงพลังเช่นนี้อีกอย่า ลืมกดไลค์กดแชร์และที่สำคัญที่สุดคือกด ติดตามช่อง Infinity Fลของเราเพื่อเป็น กำลังใจและไม่พลาดทุกเรื่องเล่าสำคัญใน ครั้งต่อไปครับหากมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสน เสนอแนะใดๆโปรดคอมเมนต์ไว้ได้เลยครับผม ยินดีน้อมรับทุกความเห็นเพื่อนำไปพัฒนา ครับก่อนจากกันในวันนี้ผมขอฝากให้ทุกท่าน ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงช่วงนี้อากาศเปลี่ยน แปลงบ่อยขอให้ทุกท่านปลอดภัยและมีแต่ความ

สุขกายสบายใจครับผมขอลาทุกท่านไปกับ เรื่องราวแห่งแสงปัญญาในคลิปนี้เจอกัน ใหม่ในคลิปหน้าสวัสดีครับ [

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *