พระอาการวิกฤตที่ไม่มีใครคาดคิดเจาะลึก ความจริงในแถลงการณ์ฉบับที่ 4 พระอาการ เจ้าฟ้าพัชรกิตติยาภา สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคนยินดีต้อนรับเข้า สู่ช่อง Infinity F ครับวันนี้ผมอยากชวน มานั่งคุยกันถึงเรื่องที่หลายคนกำลังติด ตามและเป็นห่วงกันมากในตอนนี้เรื่องนี้ ไม่ใช่เพียงข่าวทั่วไปแต่เป็นเรื่องที่ อยู่ในใจของคนไทยทั้งประเทศเพราะเกี่ยว ข้องกับพระอาการประชวนของสมเด็จพระเจ้า ลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิตติยาภา นเรณธิราเทพยาวดีกรมหลวงราชสารณี สิริพัฒน์มหาวัชรราชธิดา ซึ่งเพิ่งมีการเผยแพร่แถลงการณ์ฉบับที่ 4 จากสำนักพระราชวังออกมาวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 256

ซึ่งก็คือเมื่อวานนี้เองหลายคนคงจำกันได้ นะครับว่าพระองค์ทรงเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มานานมากๆตั้งแต่ปลาย ปี 2565 เพราะพระอาการทางพระหทัยคณะแพทย์ก็ถวาย การรักษามาอย่างต่อเนื่องถ้าหากเราย้อน กลับไปดูแถลงการณ์ก่อนๆตั้งแต่แถลงการณ์ ฉบับที่ 1 ถึง 3 เราจะเห็นว่าตลอดระยะ เวลาที่ผ่านมาพระองค์ยังทรงอยู่ภายใต้การ ดูแลอย่างใกล้ชิดต้องใช้อุปกรณ์ทางการ แพทย์ช่วยพยุงการทำงานของพระวรรกะหรือไต และพระปัพผาสะหรือปอดอย่างต่อเนื่องและ แม้จะมีการติดเชื้อเป็นครั้งคราวแต่คณะ แพทย์ก็สามารถคุมได้ด้วยยาปฏิชีวนะและพระ

อาการก็คงที่ในระดับหนึ่งมาโดยตลอดทำให้ หลายคนรู้สึกว่าพระองค์ยังอยู่ใน เสถียรภาพที่ควบคุมได้แต่พอแถลงการณ์ฉบับ ที่ 4 ออกมาคราวนี้เนื้อหากลับมีจุดที่ น่ากังวลมากขึ้นครับเพราะมีการระบุไว้ชัด เจนว่าตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 256 คณะแพทย์ตรวจพบว่าพระองค์ทรงมีภาวะติด เชื้อรุนแรงในกระแสพระโลหิตหรือที่คนทั่ว ไปเรียกกันว่าภาวะเลือดเป็นพิษคำนี้หลาย คนอาจเคยได้ยินแต่คงจะไม่รู้ว่ามันรุนแรง แค่ไหนความจริงแล้วภาวะนี้คือการที่เชื้อ โรคเนี่ยไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรียหรือเชื้อ ราบางชนิดหลุดเข้าสู่กระแสเลือดแล้วแพร่ กระจายไปทั่วร่างกายไม่ได้อยู่เฉพาะที่

เช่นปอดลำไส้หรือผิวหนังแต่สามารถเดินทาง ไปถึงหัวใจสมองไต่ตับหรือแม้แต่เนื้อ เยื่อส่วนต่างๆได้หมดและเมื่อมันกระจายไป ทั่วร่างกายก็จะตอบสนองด้วยการอักเสบทั้ง ระบบทำให้ความดันโลหิตตกลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าไม่รับการรักษาทันท่วงทีอวัยวะ สำคัญอาจล้มเหลวได้ผมขออธิบายเพิ่มเติมนะ ครับคำว่าติดเชื้อที่รุนแรงจนเข้าสู่ กระแสพระโลหิตนั่นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เลยนะครับในทางการแพทย์เราเรียกภาวะนี้ ว่าเซปติซีเมียหรือที่คนทั่วไปเรียกว่า เลือดเป็นพิษผมจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆนะ ครับปกติแล้วเมื่อเราติดเชื้อเชื้อโรคมัก จะอยู่ในบริเวณที่เฉพาะเจาะจงเช่นปอด

อักเสบเชื้อเชื้ออยู่ที่ปอดหรือแผลอักเสบ เชื้ออยู่ที่แผลแต่ในภาวะเซปติซีเมีย เชื้อโรคได้หลุดออกจากบริเวณที่เกิดก้าน ติดเชื้อเริ่มแรกแล้วเข้าไปในกระแสเลือด จากนั้นก็แพร่กระจายไปทั่วร่างกายความ อันตรายของเซปติซีเมียมีหลายประการอันดับ แรกเชื้อโรคสามารถไปสร้างการติดเชื้อใน อวัยวะต่างๆได้เช่นหัวใจสมองไต่ตับอันดับ 2 ร่างกายจะเกิดปฏิกิริยาการอักอักเสบ ที่รุนแรงเรียกว่า systemic inflammatory response ซึ่งอาจทำให้อวัยวะต่างๆทำงาน ผิดปกติได้อันดับ 3 หากรุนแรงมากขึ้นอาจ นำไปสู่ภาวะ septic shock ที่ความดัน โลหิตตกลงอย่างอันตรายซึ่งถ้าไม่รับการ

รักษาทันท่วงทีอวัยวะสำคัญอาจล้มเหลวได้ ในแถลงการณ์มีการระบุอย่างชัดเจนว่าได้ ให้ยาปฏิชีวนะหลายชนิดพร้อมกันการใช้ยา หลายตัวเช่นนี้มักหมายถึงการที่เชื้อมี ความซับซ้อนหรืออาจดื้อต่อยาบางชนิดการ ใช้หลายตัวร่วมกันก็เพื่อเพิ่มโอกาสควบ คุมและกำจัดเชื้อให้ได้ผลเร็วที่สุดขณะ เดียวกันก็ต้องให้ยาควบคุมและกระตุ้นความ ดันพระโลหิตเพื่อไม่ให้ความดันตกลงไปจน เป็นอันตรายต่ออวัยวะสำคัญอย่างสมองและ หัวใจซึ่งขั้นตอนเหล่านี้บอกชัดเลยว่าคณะ แพทย์กำลังทำทุกวิถีทางเพื่อรับมือกับ ภาวะที่ถือว่ามีความเสี่ยงสูงมากสิ่งที่ เราต้องเข้าใจคือการรักษาในภาวะแบบนี้ไม่

ใช่เพียงการให้ยาแล้วรอดูอาการแต่ต้องมี ทีมแพทย์พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์เฝ้า ดูแลตลอด 24 ช่โมงต้องตรวจวัดสัญญาณชีพ ตลอดเวลาปรับยาและวิธีการรักษาแบบเร time ตามความเปลี่ยนแปลงของพระอาการและในแต่ละ ขั้นตอนก็มีความซับซ้อนทางการแพทย์สูงมาก เป็นงานที่ต้องใช้ทั้งความรู้ประสบการณ์ และความทุ่มเทอย่างเต็มกำลังอีกสิ่งที่ น่าสังเกตในแถลงการณ์ครั้งนี้คือวิธีการ สื่อสารของสำนักพระราชวังซึ่งถือว่ามี ความชัดเจนและละเอียดมากกว่าหลายครั้งที่ ผ่านมาในอดีตเรื่องพระอาการเจ็บป่วยของ พระบรมวงศานุวงศ์มักจะถูกสื่อสารอย่าง สั้นและกระชับแต่ครั้งนี้กลับให้ราย

ละเอียดถึงขั้นบอกว่ามีภาวะติดเชื้อใน กระแสพระโลหิตต้องใช้ยาหลายชนิดและต้อง ควบคุมความดันพระโลหิตให้คงที่นี่อาจ สะท้อนถึงการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่ สังคมคาดหวังข้อมูลที่โปร่งใสและครบถ้วน มากขึ้นแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ก็ตามหลังจากแถลงการเผยแพร่ออกมากระแสใน สังคมเต็มไปด้วยความห่วงใยและการส่งกำลัง ใจให้พระองค์มีทั้งคนที่โพสต์ข้อความ ภาวนามีการรวมตัวกันทำบุญถวายเป็นพระ ราชกุศลและสื่อมวลชนเองก็รายงานด้วยความ ระมัดระวังและเคารพต่อข้อมูลทางการแพทย์ ซึ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าพระองค์ทรง มีความผูกพันและเป็นที่รักของประชาชนทั้ง

จากบทบาทในงานสาธารณะการเป็นทูตวัฒนธรรม และการเป็นแบบอย่างในด้านกีฬาโดยเฉพาะ กีฬาขี่ม้าโปโลที่พระองค์ทรงมีชื่อเสียง ในมุนของผมเหตุการณ์นี้นอกจากจะทำให้เรา เห็นความทุ่มเทของทีมแพทย์แล้วยังทำให้ เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับภาวะติดเชื้อใน กระแสเลือดหน้าขึ้นว่ามันไม่ใช่เรื่องไกล ใส่ตัวการติดเชื้อเล็กๆน้อยๆถ้าไม่ดูแล อาจพัฒนาไปถึงขั้นรุนแรงได้ไม่น้อยและ ยิ่งถ้าเกิดในคนที่มีปัญหาสุขภาพเดิมอยู่ แล้วความเสี่ยงก็จะสูงขึ้นมากทั้งหมดนี้ จึงทำให้แถลงการณ์ฉบับที่ 4 ไม่ใช่เพียง การอัปเดตข่าวสารแต่ยังเป็นสัญญาณให้เรา รู้ว่าพระอาการของพระองค์กำลังเผชิญกับ
ความท้าทายครั้งสำคัญและต้องการการดูแลใน ระดับสูงสุดสิ่งที่เราทำได้ในฐานะประชาชน ก็คือเฝ้าติดตามข่าวจากสำนักพระราชวัง อย่างใกล้ชิดพร้อมกับร่วมกันภาวนาและทรง แรงใจให้พระองค์ทรงฟื้นพระพลานามัยแข็ง แรงขึ้นในเร็ววันและให้ทีมแพทย์มีกำลังใจ ในการทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังเช่นกันและ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรเรื่องนี้ก็ทำให้ เราเห็นคุณค่าของการสื่อสารที่ชัดเจนเห็น พลังของความรักและความผูกพันระหว่างพระ บรมวงศานุวงศ์กับประชาชนและเห็นว่าทุก ชีวิตแม้จะสูงเพียงใดก็ต้องต่อสู้กับโรค ไผไข้เจ็บเหมือนกันสิ่งสำคัญคือการได้รับ การดูแลที่ดีที่สุดและกำลังใจจากผู้คนรอบ
ข้างที่ไม่มีวันลดลงขอบคุณทุกท่านที่ติด ตามรับชมเรื่องราวอันมีคุณค่านี้มาจนถึง ตอนท้ายนี้นะครับผมดีใจและรู้สึกเป็น เกียรติอย่างยิ่งครับที่ได้มีโอกาสแบ่ง ปันเรื่องราวที่ลึกซึ้งและให้ข้อคิดเช่น นี้ให้ทุกท่านได้ฟังกันหากมีข้อผิดพลาด ประการใดทั้งในการอ่านหรือการนำเสนอที่ อาจติดขัดไปบ้างผมต้องขอกราบอภัยมาณที่ นี้ด้วยครับและขอสัญญาว่าจะพยายามปรับ ปรุงและพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆครับยังไงก็ฝากเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะ ครับหากทุกท่านชื่นชอบคลิปที่ผมทำก็อย่า ลืมกดไลค์กดแชร์และกดติดตามช่อง Infinity F ของเราเพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกคน
ด้วยนะครับหากมีข้อคิดเห็นหรือคำติชม ประการใดสามารถคอมเมนต์มาได้เลยครับผมยิน ดีน้องพร้อมรับทุกความเห็นเลยครับการ เรียนรู้ในมุมมองที่ต่างกันนั้นไม่ใช่ เรื่องผิดพลาดเลยครับก่อนจากกันในวันนี้ ผมขอฝากให้ทุกท่านรักษาสุขภาพด้วยนะครับ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยขอให้ทุกท่าน ดูแลตัวเองดีๆนะครับ
