สองในยุคที่ข่าวสารถูกเผยแพร่ผ่านหน้าจอและเสียงจากราชสำนักมรรคเป็นเพียงเสียงเดียวที่ดังกึกก้อง แต่ท่านผู้หญิงศรีรัตน์ สุวดีกลายเป็นบุคคลที่สังคมไทยรับรู้ผ่านคำบอกเล่าของผู้อื่นมากกว่าที่จะได้ยินเสียงของเธอเอง ทว่าในเงามืดของสื่อและเบื้องหลังภาพลักษณ์ที่ถูกวาดขึ้นอย่างเป็นทางการ ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ซึ่งเงียบงันแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซ่อนลึก นั่นคือคลองดอนคลองดอนไม่ใช่แค่สถานที่ห่างไกลจากแสงแฟลกของกล้องสื่อแต่คือพื้นที่ที่บรรจุเรื่องราวที่ไม่มีใครกล้าเล่าพื้นที่ที่เสียงของความจริงค่อยค่อยกล้องกลับมาในความเงียบความจริงที่ไม่ผ่านการตัดต่อไม่ผ่านกรอบพิธีกรรม
แต่เป็นภาพที่ถูกเห็นด้วยตาและรับรู้ด้วยใจของผู้คนในชุมชนในสายตาของคนภายนอกคำว่าท่านผู้หญิงศรีรัตน์อาจเชื่อมโยงกับฉากหลังของตำหนักและข่าวลือแต่ในคลองดอนเธอคือผู้หญิงที่เคยเดินผ่านลานดินที่มีฝุ่นคลุ้ง เธอคือเสียงหัวเราะเบาเบาที่บางครั้งทำลายความเงียบของกลางวันเธอคือภาพที่เดินผ่านแววตาของแม่บ้านชาวบ้านเจ้าหน้าที่และทิ้งร่องรอยไว้ในความทรงจำ แล้วทำไมคลองดอนจึงสำคัญเพราะที่นี่คือฉากหลังของบทที่ไม่เคยมีใครเปิดอ่านที่ซึ่งความรู้สึกจริงแท้ถูกสลักไว้ในใจของคนธรรมดาชุมชนที่ได้พบเจอกับมนุษย์คนหนึ่งมากกว่าภาพที่สื่อเคยวาดไว้ที่คลองดอน
คำว่าอดีตราชินีหรือเจ้าจอมในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ใช่เพียงยศศักดิ์แต่เป็นชื่อของใครคนหนึ่งที่พวกเขาได้เห็นในชีวิตจริงพร้อมกับความเงียบที่เปี่ยมไปด้วยคำถามท่านผู้หญิงศรีรัตน์ในคลองดอนไม่ได้ถูกมองเพียงผ่านเลนส์การเมืองหรือราชสำนัก มีแต่ผ่านเลนของมนุษยธรรมความเป็นแม่ความเป็นผู้หญิงที่เดินผ่านวันที่ไม่แน่นอนพร้อมกับศักดิ์ศรีที่ไม่เคยถูกแย่งชิง และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเสียงที่ไม่เคยถูกฟังจากคลองดอนจึงอาจเป็นกุญแจที่ไขสู่ความเข้าใจใหม่ความเข้าใจที่ไม่เพียงเปลี่ยนวิธีที่เรามองท่านผู้หญิงศรีรัตน์ แต่ยังสะท้อนกลับมาถึงตัวเราเองว่า
เรารู้จักเธอดีพอแล้วหรือยัง บางทีคำตอบไม่ได้อยู่ในราชกิจจานุเบกษา แต่อยู่ในเสียงที่ไม่เคยถูกถาม 1 เสียงจากคลองดอนอาจไม่เคยปรากฏบนหน้าหนังสือพิมพ์หรือถูกบันทึกไว้ในรายงานราชการ แต่หากได้ฟังอย่างตั้งใจ เราอาจค้นพบความจริงที่ซ่อนอยู่ในรอยยิ้ม เงาสะท้อนในแววตา หรือแม้กระทั่งในความเงียบอันหนักแน่นของผู้ที่เคยได้อยู่ใกล้เธอ มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง เล่าอย่างไม่เต็มเสียงว่าเธอไม่เคยแสดงอำนาจหรือแสดงตนเหนือกว่าใครแต่มีบางอย่างในสายตาเธอที่ทำให้ทุกคนหยุดฟังแม้จะไม่มีคำพูดใดบางทีสิ่งที่ท่านผู้หญิงนำติดตัวมาไม่ได้เป็นแค่ชื่อเสียงในอดีต
แต่เป็นความสง่างามที่ไม่ต้องการการประกาศหญิงชราผู้หนึ่งในชุมชนกล่าวถึงช่วงเวลาที่เคยพบเธอที่ร้านหน้าบ้านพักราชการเธอยกมือไหว้ก่อนฉันอีกฉันจำได้ถึงวันนี้คำพูดสั้นสั้นแต่เต็มไปด้วยความรู้สึก ซึ่งไม่สามารถจัดเข้ากรอบของข่าวหรือบันทึกใด แต่บางวันเธอนั่งเงียบใต้ต้นไม้ใหญ่ฟังเสียงนกเสียงลม บางวันเธอเขียนบางวันเธอเพียงมองออกไปไกลไกลไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรแต่ทุกคนรู้ว่าเธอยังคงอยู่อยู่ในความทรงจำในบทสนทนาเงียบเงียบที่ไม่เคยได้ยิน เมื่อรวมคำบอกเล่าจากคนในเหล่านี้เข้าด้วยกัน เราเริ่มเห็นภาพของท่านผู้หญิงศรีรัตน์ที่แตกต่างจากภาพที่เคยได้รับจากสื่อ
ภาพของหญิงสาวที่เคยยืนอยู่ในแสงจ้าแห่งราชสำนัก แต่กลับเปล่งประกายในความเงียบของคลองดอนในความเงียบมีความเข้าใจในคำบอกเล่ามีการเยียวยาและในคลองดอนมีเสียงของความเป็นมนุษย์ที่ไม่เคยถูกฟัง 2 ในสังคมที่ทุกอย่างดูจะถูกจัดระเบียบตามลำดับชั้นและพิธีการอย่างเคร่งครัด ความเป็นมนุษย์ของผู้ที่เคยมีตำแหน่งสูงส่งมักถูกบดบังด้วยภาพลักษณ์และเกียรติยศที่สังคมสร้างขึ้น แต่ที่คลองดอนความเงียบไม่ได้หมายถึงการลืมเลือนกลับกันมันคือกระจกสะท้อนถึงการดำรงอยู่ของผู้หญิงคนหนึ่งที่แม้จะไร้ตำแหน่งทางการแต่ยังคงมีศักดิ์ศรีอยู่ในหัวใจของผู้พบเห็น
บางวันเธอเพียงนั่งเงียบเงียบในระเบียงไม้มองเด็กในหมู่บ้านวิ่งเล่นเสียงหัวเราะของเด็กเล็กทำให้ผู้คนลืมว่านี่คืออดีตลาดนิกุลที่เคยอยู่ในตำหนักที่มีทองคำประดับประดาทุกวันนี้เธออาจสวมผ้าธรรมดาดื่มน้ำจากแก้วพลาสติก แต่ไม่มีใครมองเธอด้วยความเวทนาเพราะสิ่งที่ยังอยู่ในดวงตาเธอคือความสงบนิ่งผู้คนในชุมชนเล่าตรงกันว่าเธอไม่เคยเรียกร้องไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าใครแต่การที่เธอยังคงรักษาระเบียบการใช้ชีวิตอย่างเคร่งครัด สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยพับผ้าปูที่นอนอย่างประณีตคือวิธีของเธอในการบอกว่าข้าพเจ้ายังไม่พ่ายแพ้ ในทุกสายตาที่มองเธอผ่านหน้าต่างบ้านพักหลวงมีความรู้สึกหลากหลายทั้งสงสัยสะเทือนใจและเคารพโดยไม่ต้องมีคำสั่งราชการใดมากำหนดบางคนเปรียบเธอเป็นนักโทษผู้ภักดีที่ถูกจองจำไม่ใช่ด้วยโซ่ตรวนแต่ด้วยเรื่องเล่าและอดีตที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง
แม้แต่ในความเงียบนั้นเองกลับเกิดประกายของเสรีภาพทางใจที่ใครหลายคนในโลกภายนอกยังหาไม่พบและนี่คือด้านที่ประวัติศาสตร์มักมองข้ามด้านของผู้หญิงที่ยังคงเดินต่อแม้ไม่มีใครเรียกชื่อของเธอด้วยคำหยอกย่องอีกต่อไป 4 ท่ามกลางภาพจำจากสื่อกระแสหลักที่ถูกผลิตซ้ำผ่านคำแถลงและข่าวราชสำนักเรื่องราวของท่านผู้หญิงศรีรัตน์ในคลองดอนกลับเผยให้เห็นอีกด้านด้านที่ไม่ได้ถูกเขียนในราชกิจจานุเบกษาหรือสะท้อนผ่านคำบรรยายในรายการข่าว เมื่อเราเริ่มเปรียบเทียบข้อมูลจากผู้ที่มีประสบการณ์ตรงในคลองดอนกับบันทึกสาธารณะในอดีตสิ่งหนึ่งที่ปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนคือความไม่สอดคล้องที่น่าครุ่นคิดไม่ใช่เพราะมีใครพูดโกหก
แต่เพราะแต่ละมุมที่มองมาย่อมให้ภาพที่แตกต่างกันออกไป ราชกิจจานุเบกษาเคยระบุว่าเธอได้ออกจากฐานันดรศักดิ์โดยสมัครใจแต่เสียงจากคลองดอนกลับบอกเล่าเรื่องราวของผู้หญิงที่อยู่ในสภาพถูกจำกัดเสรีภาพ แม้จะไม่มีโซ่ตรวนผูกกายแต่มีกรอบที่มองไม่เห็นกลั้นใจภาพที่สื่อเคยสื่อว่าเธอหลบหน้ากลายเป็นคำถามว่าหรือบางทีเธอถูกทำให้ต้องเงียบเพราะในคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ มีข้อจำกัดในการเข้าถึงเธอที่ไม่ได้มีระบุไว้ในกฎหมายหรือเอกสารทางการใดใด แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกเรื่องที่ครองดอนพูดถึงจะตรงกันข้ามกับสืบบางอย่างกลับเสริมกันอย่างน่าสนใจเช่น
กับความสงบเสงี่ยมของเธอ การไม่แสดงตัวตนในที่สาธารณะและการรักษาระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด ซึ่งตรงกับภาพของหญิงที่ยังคงจงรักภักดีต่อราชวงศ์และในความขัดแย้งนั้นเอง ความจริงอาจไม่ได้อยู่ที่ว่าฝ่ายใดพูดถูกหรือผิด แต่แต่อยู่ที่ว่าเรากล้าจะฟังเสียงทุกด้านหรือไม่โดยไม่ปิดหูปิดตาเพียงเพราะมันไม่สะดวกต่อภาพที่เราคุ้นชินเพราะบางทีความจริงของประวัติศาสตร์อาจไม่ได้อยู่ในเอกสารทางการแต่อยู่ในช่องว่างระหว่างบรรทัดหรือไม่ เมื่อเรื่องราวจากคลองดอนค่อยค่อยเปิดเผยออกมาภาพของท่านผู้หญิงศรีรัตน์ สุวดีก็ไม่ใช่เพียงภาพอดีตราชนิกุลผู้เคยอยู่ในแสงจ้าแห่งราชสำนัก
แต่คือภาพของมนุษย์ผู้เงียบงันแต่แข็งแกร่งเป็นสตรีที่ไม่ได้ถูกจดจำในฐานะสัญลักษณ์ของเกียรติยศ หากแต่เป็นตัวแทนของความอดทนความสูญเสียและความเงียบที่เต็มไปด้วยคำถามเสียงจากคลองดอน ไม่ได้เพียงแต่นำเสนออีกด้านของความจริงหากยังเป็นบทสะท้อนถึงโครงสร้างของการรับรู้ในสังคมไทยที่เราเลือกจะเชื่อสิ่งใดและเลือกจะเงียบต่อสิ่งใดหลายคนในชุมชนกล่าวตรงกันว่าไม่ว่าอดีตของเธอจะเป็นเช่นไรเรามองเธอเป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง จุดที่เงียบแต่ไม่เคยไร้ตัวตนและนั่นคือจุดเริ่มต้นของมรดกที่แท้จริงมรดกที่ไม่อิงกับยศถาบรรดาศักดิ์ แม้แต่มาจากความเคารพที่เกิดจากการเห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ในเมื่อเรื่องราวของเธอยังไม่เคยถูกเขียนอย่างเป็นทางการและคำถามจำนวนมากยังไม่เคยได้รับคำตอบเช่นทำไมเธอยังอยู่ที่นั่นนานขนาดนี้เหตุใดจึงไม่มีการกล่าวถึงเธออีกจากราชสำนัก
และใครคือผู้ที่ได้ฟังเสียงของเธอจริงจริง แต่คำถามเหล่านี้อาจไม่มีคำตอบในเร็ววันแต่อย่างน้อยเราได้เริ่มตั้งคำถามและนั่นคือการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง คลิปวีดีโอนี้อาจไม่ได้มอบความจริงทั้งหมดให้กับคุณแต่หวังว่าจะมอบความกล้าที่จะรับฟังอีกด้านของเรื่องราวซึ่งเป็นสิ่งที่หายากยิ่งในสังคมที่เต็มไปด้วยเสียงเดียวกัน ในท้ายที่สุดมรดกของท่านผู้หญิงศรีรัตน์อาจไม่ได้อยู่ในตำหนักหรือเอกสารทางราชการแต่อยู่ในหัวใจของผู้ที่ยังจำเธอได้ไม่ใช่ในฐานะผู้หญิงที่เคยอยู่ในวัง แม้แต่ในฐานะมนุษย์ผู้ไม่เคยยอมแพ้ต่อเงื่อนไขของโชคชะตาขอขอบคุณที่รับชมเรื่องราวนี้จากช่องแว้งกรูแอนชาว
บทส่งท้ายพิเศษเมื่ออดีตไม่ได้จากไป แต่หลอมรวมเป็นเงาในปัจจุบัน บางทีเรื่องราวของท่านผู้หญิงศรีรัตน์ สู่ดีที่เลือนหายจากหน้าสื่อ ไม่ใช่เพราะเธอหมดความสำคัญ หากเพราะเธอกลายเป็นสัญลักษณ์สัญลักษณ์ของคำถามที่ยังไม่มีใครกล้าถามและความจริงที่ยังไม่มีใครกล้าฟังครองดอนไม่ใช่เพียงสถานที่แต่เป็นเงาของสังคมไทยที่เก็บงำความรู้สึกไว้อย่างเงียบงัน เงาที่ส่องสะท้อนคำถามสำคัญว่าเมื่อบุคคลหนึ่งถูกถอดถอนออกจากประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการหัวใจของพวกเขายังมีสิทธิ์ถูกจดจำหรือไม่และถ้าหากประวัติศาสตร์ที่ถูกเขียนไว้ด้วยหมึกทองไม่ได้สะท้อนความจริงของมนุษย์ที่อยู่ในนั้น
เราควรเชื่อสิ่งใดมากกว่ากันบางครั้งสิ่งที่ไม่ถูกพูดถึงเลยคือสิ่งที่สำคัญที่สุดหากคุณรู้สึกบางอย่างระหว่างบรรทัดเหล่านี้แม้เพียงเศษเสี้ยวบางทีคุณก็คือหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้ยินเสียงจากคลองดอน
